ดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index: GII) เป็นดัชนีคอมโพสิตที่พัฒนาขึ้นจากการผสมผสานข้อมูลสถิติและข้อมูลจากดัชนีผสมอื่นๆ สำหรับใช้ชี้วัดความสามารถทางด้านนวัตกรรม โดยเปรียบเทียบเชิงเวลาและเปรียบเทียบเชิงการแข่งขันทางด้านนวัตกรรมของแต่ละประเทศ ดัชนี GII พัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก หรือ WIPO (World Intellectual Property Organization) ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ สถาบันบริหารธุรกิจ INSEAD (European Institute of Business Administration) มหาวิทยาลัย Cornell ของสหรัฐอเมริกา สมาพันธ์อุตสาหกรรมอินเดีย Confederation of Indian Industry (CII) และตรวจสอบความถูกต้องทางสถิติโดย Joint Research Centre of the European Commission ดัชนี GII เริ่มจัดทำครั้งแรกในปี ค.ศ. 2007 และมีการจัดทำอย่างต่อเนื่องโดยการเผยแพร่ผ่าน https://www.wipo.int/global_innovation_index/en/ และจัดทำล่าสุดในปี ค.ศ. 2022 เป็นปีที่ 15 ครอบคลุม 132 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ (โดยเป็นการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจากจุดเริ่มต้น 25 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจในปี 2007) ครอบคลุมร้อยละ 94.1% และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของโลก (world GDP) รวมกันประมาณ 98.5% ดังนั้นดัชนี GII จึงเป็นหนึ่งในดัชนีที่ได้รับความยอมรับในการนำไปใช้ในการกำหนดนโยบายด้านนวัตกรรมในหลายประเทศ นอกเหนือไปจากดัชนีวัดความสามารถและศักยภาพด้านการแข่งขันระดับโลกอื่นๆ อย่างดัชนี World Competitiveness Yearbook (WCY) จัดทำโดย International Institute for Management Development (IMD) และ ดัชนี Global Competitiveness Index (GCI) จัดทำโดย World Economic Forum (WEF)
การจัดอันดับความสามารถทางนวัตกรรมตามแนวทางดัชนี GII มีการแบ่งกลุ่มประเทศต่าง ๆ ออกเป็น 4 กลุ่ม
โดยใช้หลักเกณฑ์การจำแนกสถานะทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ของธนาคารโลก (World Bank) ดังนี้
• ประเทศที่มีรายได้ต่ำ (Low Income) มีรายได้ต่อหัวต่ำกว่า 1,035 ดอลลาร์สหรัฐ
• ประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับต่ำ (Lower Middle-Income) มีรายได้ต่อหัว ระหว่าง 1,036 – 4,045 ดอลลาร์สหรัฐ
• ประเทศที่มีรายได้ปานกลางในระดับสูง (Upper Middle-Income) มีรายได้ต่อหัว ระหว่าง 4,046 – 12,535 ดอลลาร์สหรัฐ
• ประเทศที่มีรายได้สูง (High-Income) มีรายได้ต่อหัวมากกว่า 12,536 ดอลลาร์สหรัฐ
See more :